หวิดดับ! รถจมน้ำนานกว่า 7 ชม. คุณจะทำอย่างไรเมื่อกระจกไฟฟ้าไม่ทำงาน

หวิดดับ!สาวขับรถหักหลบตัวเงินตัวทองก่อนเสียหลักทิ่มคูน้ำข้างถนนกลางดึก ติดอยู่ภายในรถ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดใต้น้ำนานกว่า 7 ชั่วโมง รถที่จมน้ำมีลักษณะหงายท้อง ก่อนพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือรอดราวปาฏิหารย์ โดยผู้รอดชีวิตเล่าว่ารอดมาได้เพราะอาศัยช่องอากาศกว้างเพียง 3-4 เซนติเมตรบริเวณซุ้มล้อในการหายใจ

สาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ เกิดจากผู้ประสบเหตุพยามตามอากาศที่ไหลไปรวมกันที่นั่งด้านหลัง (กรณีหัวรถจมก่อน) ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจเกิดจากความตื่นตระหนกตกใจ สุดท้ายเมื่อรถจมลึกลงไป อากาศจะถูกไล่ออกทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิตนั่นเอง การใช้อากาศบริเวณซุ้มล้อหายใจนั้นอาจไม่ถูกต้อง แต่กรณีนี้สามารถทำได้เนื่องจากรถจมลงในคูน้ำไม่ลึก

ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/210512

เช็คราคาระบบไฟฟ้า คลิ๊ก : https://www.milework.com/electric-and-lighting/?ut...

ทำอย่างไรเมื่อรถจมน้ำ ?

1. ตั้งสติ

เมื่อเกิดเหตุคนเรามักสติหลุด และมันยากที่จะควบคุมสติได้ในทันที สิ่งแรกที่ต้องทำคือการพยายามควบคุมสติให้ได้เร็วที่สุด จะทำแบบนั้นได้เราอาจต้องใช้การจำลองความคิดไว้ก่อนว่าถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นเราจะทำอย่างไร คล้ายกับซ้อมความคิดเอาไว้ก่อนคิดเสมอว่ารถจมน้ำไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แค่ต้องรู้วิธีรับมือเท่านั้น เช่น กระจกไฟฟ้าจะไม่ทำงานหากรถจมน้ำ เป็นต้น

2. ปลดเข็มขัดนิรภัย

เคยไหมครับเวลาที่เราเปิดประตูจะลงจากรถแล้วลงไม่ได้เพราะเราติดเข็มขัดนิรภัยอยู่ เชื่อว่าบางคนต้องเคยประสบมาเอง นั่นเพราะเราลืมไปว่าเราใส่เข็มขัดนิรภัยอยู่ หลายครั้งที่ผู้ประสบเหตุรถจมน้ำออกมาไม่ได้เพราะติดเข็มขัดนิรภัย ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำถัดมาคือการปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเราเอกออกเสียก่อน ย้ำว่าของตัวเอง!!! ก่อนนะครับ เพราะว่าตัวเราจะได้มีอิสระไปช่วยคนอื่นๆต่อ หลังจากนั้นปลดให้เด็กโต ให้เด็กโตตามไปช่วยเด็กเล็ก กรณีมากันหลายคน

3. ลดกระจกไฟฟ้าลงให้ไวที่สุด

จำไว้ว่าทางออกที่ดีที่สุดเมื่อรถจมน้ำคือทางหน้าต่างกระจกไฟฟ้า ย้ำว่าทางหน้าต่างไม่ใช่ทางประตู คนเราเคยชินที่จะออกจากรถทางประตู หากเราขาดสติแน่นอนเราจะพยายามดันประตูออกไป แต่ห้ามทำครับ! เพราะเมื่อรถจมน้ำทุกอย่างจะเกิดขึ้นไวมาก และประตูจะไม่สามารถเปิดออกได้เนื่องจากแรงดันน้ำภายนอกมากกว่าภายในรถ แต่กระจกไฟฟ้าหน้าต่างยังสามารถเปิดได้อยู่(อีกสักพัก) หากเป็นกระจกแบบเก่าคือแบบหมุนจะไม่มีปัญหาอะไรเพราะไม่มีไฟช๊อต แต่สมัยนี้รถส่วนใหญ่เป็นกระจกไฟฟ้าเมื่อรถจมน้ำระบบไฟรถยังทำงานต่อได้อีก 5 นาทีหรือจนกว่าจะช๊อตจนไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นพยายามกดเปิดกระจกรอไว้เลยก่อนที่รถจะจมน้ำลงไป ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้ามาในรถนะครับ ยังไงก็เข้าอยู่แล้ว

เทคนิคการทำให้กระจกไฟฟ้าแตกเมื่อไม่สามารถเปิดได้

ในสถานการณ์รถจมน้ำนี้ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือไม่สามารถเปิดประตู หรือหน้าต่างได้ สิ่งที่ทำได้ต่อมาคือการใช้ของแข็งมาทุบกระจกไฟฟ้าครับ กรณีที่เป็นรถกระบะจะมีเครื่องมือชนิดหนึ่งที่เหมาะสมที่สุดคือ เหล็กขันน็อตที่มีอยู่ในถุงอะไหล่รถกระบะทุกชนิด ส่วนกรณีที่เป็นรถเก๋ง ต้องใช้วัสดุอื่น เช่น แท่งเหล็กของหมอนรองคอ โดยเทคนิคนิคการทุบให้กระจกไฟฟ้าแตกมีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อคือ

• เลือกทุบบริเวณร่องกระจกไฟฟ้าของหน้าต่างรถ

ตอกประมาณ 1 นิ้ว จากนั้นพยามงัดเข้าหาตัว (เพื่อให้แรงดันน้ำช่วยผลัก) จะทำให้กระจกไฟฟ้าแตกทั้งบานครับ

• เลือกทุบที่กระจกไฟฟ้าข้างคนขับ หรือกระจกหลัง แทนที่จะทุบกระจกหน้า

เพราะกระจกหน้าถูกออกแบบมาให้เป็นกระจกนิรภัยทำให้แตกยากกว่ากระจกด้านข้างหรือด้านหลัง ในขณะที่ข้อดีของกระทุบกระจกด้านหลังคือ เป็นจุดที่น้ำท่วมช้าสุด (เพราะส่วนใหญ่หัวรถจะจมก่อน)

4. รีบหนีออกมา

กรณีแรกคือเปิดกระจกไฟฟ้าได้ก่อนที่รถจะจมน้ำ ให้เราออกมาจากรถทันที แต่ถ้าหากรถได้จมลงในน้ำแล้วให้เราทำใจเย็นๆอย่าเพิ่งสู้แรงน้ำออกมา ให้ควบคุมสมาธิกำหนดลมหายใจรอจังหวะสุดท้ายแล้วกลั้นหายใจตอนน้ำเข้ามาใกล้จะเต็มรถหมดแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะที่แรงดันน้ำเหลือน้อยแล้วให้เราว่ายน้ำออกมา

สิ่งที่ห้ามทำเมื่อรถจมน้ำ

• อย่าพยายามสตาร์ทรถแล้วขับหนีหรือถอยหลังขึ้นมา ในกรณีที่รถจมน้ำแล้วน้ำลึกจนมิดเครื่องยนต์ แน่นอนว่าทำให้เครื่องดับจนไม่สามารถขับได้อีกแล้ว
• อย่าเปิดประตู หากเกิดอุบัติเหตุอาจทำให้โครงรถบิดงอผิดรูป แม้ไม่มีแรงดันน้ำก็อาจเปิดประตูไม่ออกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรเสียเวลาเปิดประตูด้วยประการทั้งปวง
• อย่าพยายามทุบกระจกหน้า เพราะกระจกหน้าออกแบบมาสำหรับป้องกันอุบัติเหตุ เป็นกระจกนิรภัย ดังนั้นเมื่อกระจกแตกมันจะไม่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่จะติดกันเป็นแผ่น ซึ่งจะทำให้เราหนีออกมายากกว่าเดิม
• อย่าขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะเข็มขัดนิรภัยช่วยให้หัวเราไม่ไปกระแทกกับพวงมาลัย หากเราหมดสติระหว่างที่รถจมน้ำ เราจะไม่สามารถหนีออกมาจากรถได้
• อย่าห่วงคนอื่นก่อนจนลืมตัวเอง แน่นอนว่าพ่อแม่หลายคนนั้นรักลูก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน เพื่อจะไปช่วยคนอื่น ปลดเข็มขัดนิรภัยของตนเองก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ แล้วจึงไปช่วยคนอื่นๆต่อตามที่่สามารถช่วยได้ ต้องวิเคราะห์สถานการณ์ด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์ในการมีชีวิตรอดคือการเตรียมตัวเตรียมการให้ดี ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นควรไปฝึกฝนก่อน อย่าคิดแค่ว่าเราจะไม่ไปใกล้น้ำหรือตกลงไปในน้ำ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เตรียมอุปกรณ์การทุบกระจกไฟฟ้า หรือแม้แต่ถังดับเพลิงไว้ในรถ จำไว้เสมอว่าบางสิ่ง "มีไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าถึงเวลาที่ต้องใช้แล้วไม่มี"

เช็คราคารถอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ คลิ๊ก : https://www.milework.com/electric-and-lighting/?ut...

มอเตอร์กระจกไฟฟ้าราคาพิเศษ