โช๊ค รถยนต์ น้ำมัน ลมยาง รถเก๋ง รถกระบะ ต้องเช็คอะไรบ้าง : 30 ข้อ-เช็ครถให้ชัวร์... ไม่กลัวเสียกลางทาง
พูดถึงอะไหล่รถยนต์ไม่ว่าจะเป็น โช๊ค รถยนต์ น้ำมันเครื่อง ลมยาง ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ หรืออะไหล่ต่างๆภายใต้ฝากระโปรงรถ บางคนเคยซ่อม เคยเปลี่ยนด้วยตัวเอง บางคนแค่รู้จัก หรือบางคนไม่ทราบเลยว่าใช้ทำอะไร หน้าตาเป็นอย่างไร! วันนี้ Milework จะมาสรุปเป็น Checklist จากช่างผู้เชี่ยวชาญในวงการอู่ซ่อมรถยนต์ จะมาแนะนำรายการที่ต้องดูแลเพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์ ป้องกันรถของคุณจะไม่ต้องไปเสียบนท้องถนน
โช๊ค รถยนต์ น้ำมันเครื่อง ลมยาง เราใส่ใจอะไหล่รถมากแค่ไหน ?
คนเราต้องทานอาหารที่ดี ต้องการนอนหลับพักผ่อน ต้องการการดูแล ป่วยก็ต้องไปพบแพทย์ รถก็เหมือนกันกับร่างกายของคุณ - เรารู้ว่ารถก็ต้องการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงสมรรถนะสูงสุด และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
คำถาม? รถของคุณมีอายุการใช้งานมากี่ปีแล้ว ...และซ่อมไปกี่รอบแล้ว
แน่นอนว่า ค่าบำรุงรักษาเบื้องต้นมีราคาถูกกว่าการซ่อมแซมอยู่มาก ส่วนใหญ่เราจ่ายเงินไปเพราะการละเลยที่จะดูแลรถ "ด้วยเหตุผลว่าไม่มีเวลา หรือ ฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับรถยนต์"
อย่างที่บอกว่าปัญหาที่พบมากที่สุดคือ การละเลยการบำรุงรักษาขั้นพื้นฐาน เช่น โช๊ค รถยนต์ ที่เสื่อมสภาพทำให้ยางรถชำรุดเร็วกว่าปกติ , การใช้รถโดยไม่ได้เปลี่ยนหัวเทียนเลย , ไม่เคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด , ไฟเบรคที่ชำรุด , และชิ้นส่วนอื่นๆ
การรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยมช่วยให้คุณปลอดภัยบนท้องถนนและสามารถประหยัดเงินได้มากในระยะยาว ฉะนั้นเรามาพูดถึงการป้องกันรถยนต์กันดีกว่า เพราะค่าบำรุงรักษาเบื้องต้นมีราคาถูกกว่าการซ่อมแซม(ที่เกิดจากการละเลย)
รายการตรวจสอบและการบำรุงรักษารถยนต์
เทคโนโลยีของรถยนต์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้ผู้ขับขี่ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแล-ซ่อมแซมอะไหล่ ทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเองได้
รายการตรวจสอบอะไหล่รถยนต์ขั้นพื้นฐาน
- เข็มขัดนิรภัย - ตรวจสอบความตึงของสายคาดและการทำงานของหัวเข็มขัดว่าสามารถล็อกเรากับเบาะได้ดีหรือไม่
- ไฟสัญญาณภายนอก - ตรวจสอบไฟสัญญาณทุกจุดทั้งด้านหน้าและหลัง หากหลอดไฟขาดให้เปลี่ยนหลอดไฟในทันที
- เบรคมือ - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถยึดรถบนทางลาด และระดับพื้นปกติได้ดี
- กระจก - ตรวจสอบกระจกว่าคมชัดหรือไม่และกระจกมีรอยร้าวบริเวณใดบ้าง หากพบรอยร้าวให้สอบถามกับช่างเพื่อดูแลเป็นกรณีไป
- ปัดน้ำฝน - ตรวจสอบการสึกหรอของใบปัดน้ำฝนว่ายังสามารถรีดน้ำได้ดีหรือไม่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง(ถ้ามี)
- แตร - ตรวสอบให้แน่ใจว่ายังทำงานได้ปกติ เสียงไม่แหลมหรือปรับแต่งให้ผิดปกติ
- สารหล่อลื่น - ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง,น้ำมันเกียร์,น้ำมันเบรค,และระบบน้ำหล่อเย็นของเครื่องยนต์
- ยาง - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ายางยึดเกาะถนนได้ดี ไม่มีล้อไหนสึกหรอผิดปกติ (อาจเกิดจากการชำรุดของ โช๊ค)
- ยางอะไหล่และเครื่องมือ - ตรวจสอบให้มั่นใจว่าอะไหล่อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและอุปกรณ์ต่างๆครบถ้วน
รายการตรวจสอบสารหล่อลื่น
- น้ำมันเครื่อง
- เครื่องทำความเย็นหม้อน้ำ
- น้ำมันเบรค
- พวงมาลัยพาวเวอร์
- น้ำยาล้างกระจกหน้า
- น้ำยาคลัทช์ (รถยนต์ใช้แล้ว)
- น้ำมันเกียร์
- ของเหลวอื่นๆ
รายการตรวจสอบยางรถยนต์
- ลมยาง-ความดันยาง
- ความลึกของดอกยางและดอกยาง
- ยางอะไหล่
- แจ็ครถและเครื่องมือ
รายการตรวจสอบไฟ
- ไฟหน้า
- ไฟสัญญาณ / ไฟแสดงสถานะ
- ไฟเบรค
- ไฟย้อนกลับ
- ไฟสปอตไลท์และหมอก
สิ่งทั่วไปอื่น ๆ ในการตรวจสอบ
- ท่อหม้อน้ำ - ตรวจสอบระบบการทำงาน เช็ครอยรั่วทุกจุด
- ไส้กรองอากาศของเครื่องยนต์ - ตรวจสอบความสะอาด หากมีฝุ่นมากจำเป็นต้องเปลี่ยน
- แบตเตอรี่ - สังเกตหาการกัดกร่อนรอบขั้วและน้ำกลั่น
- สายพานพัดลม - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายพานไม่หลวม มีขนาดพอดี ไม่แตกลายงาสภาพพร้อมใช้งาน
- ลองฟังเสียงเครื่องยนต์ที่ผิดปกติ - หากคุณได้ยิงเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์ ให้รีบตรวจสอบ เพราะหากฝืนใช้ต่อไป เราจะคุ้นชินกับเสียงนี้จนคิดไปว่าเป็นเรื่องปกติ
โฟกัสที่รายการสำคัญ
รายการที่#1: สารหล่อลื่นหรือของเหลว
ถ้าหากคุณตอบตัวเองไม่ได้ว่า “คุณเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งสุดท้ายเมื่อไร?” หรือ “คุณไม่แน่ใจว่าน้ำมันเครื่องคืออะไร” คุณอาจจะต้องเริ่มหันกลับมาใส่ใจให้มากขึ้น เพราะรถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องมีสารหล่อลื่นหรือของเหลว เช่น น้ำมันเกียร์ , น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ , น้ำกลั่น , น้ำมันเบรค เพื่อให้รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของอะไหล่รถยนต์ ฉะนั้นตรวจสอบปริมาณของน้ำมันอย่างสม่ำเสมอและเปลี่ยนเมื่อถึงกำหน
รายการที่#2 : ยางรถ
ยางรถยนต์ของคุณ มีอายุการใช้งานเหมาะสมกับที่ควรจะเป็นหรือไม่? ยางที่ดีนอกจากช่วยยึดเกาะผิวถนน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่แล้ว ยังสามารถช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้อีกด้วย สังเกตล้อรถของคุณง่ายๆเบื้องต้นจากอาการสึกหรอของหน้ายางว่ามีด้านใดด้านหนึ่ง ที่สึกมากกว่าล้ออื่นหรือไม่ อาจเป็นเพราะ โช๊ค รถยนต์ หรืออะไหล่บริเวณล้อด้านนั้นๆ ชำรุด แนะนำวิธีในการยืดอายุยางของคุณ คือ การหมุนเวียนยาง ตามกำหนดเพื่อลดการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ
รายการที่#3 : ใบปัดน้ำฝน
ถ้าพูดถึงบ้านเรา ใบปัดน้ำฝนเป็นอะไหล่ที่มักไม่ค่อยได้รับการดูแลนัก อาจเพราะส่วนใหญ่สภาพอากาศไม่แปรปรวนมากนักจนถึงกับต้องใช้ใบปัดน้ำฝนทุกวัน บางคันใช้นาน 2 ปี จนใช้งานได้ไม่ดีดังเดิม แต่ก็ยังฝืนใช้ ปัญหาคือ เมื่อยามจำเป็นต้องใช้งานจริง ใบปัดน้ำฝนใบเก่า จะดูไม่ช่วยให้ทัศนวิสัยการมองเห็น"ยามค่ำคืนขณะฝนตก”ชัดเจนนัก เสี่ยงต่อการเกินอุบัติเหตุ
รายการที่#4 : ไส้กรองอากาศเครื่องยนต์
เปรียบเทียบไส้กรองอากาศเครื่องยนต์เป็น”ปอดของรถ" ถ้ามันอุดตันผลที่ตามมาคือไม่สามารถกักเก็บฝุ่นได้ดี ปล่อยให้ฝุ่นปะปนในอากาศ และสร้างความสกปรกในเครื่องยนต์ของคุณ ไส้กรองอากาศบางจุดสามารถเปลี่ยนเองได้ บางจุดต้องให้อู่เปลี่ยนให้ ศึกษาคู่มือการใช้รถยนต์ของคุณและพิจารณาว่าควรเปลี่ยนช่วงใ
รายการที่#5 : ความสะอาด
ทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในรถเป็นประจำภายนอกรถของคุณควรล้างให้สะอาดเป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจอดรถใต้ต้นไม้ ที่มีทั้งมูลนกและยางของต้นไม้ร่วงหล่น สิ่งเหล่านี้สามารถทำลายสีรถของคุณได้หากไม่ล้างออกอย่างรวดเร็ว ภายในรถก็สำคัญไม่แพ้กันหากคุณลืมเศษขยะหรืออาหารไว้ในรถสักคืน มีโอกาสที่กลิ่นของมันจะล่อแมลงเข้ามาในรถ
รายการที่#6 : แบตเตอรี่
บางทีแบตเตอรี่รถยนต์ก็เหมือนจะชอบแกล้งคุณ! เวลาที่คุณต้องการใช้รถมากที่สุด การใช้ยานพาหนะไม่บ่อยอาจส่งผลให้ท่อระบายน้ำทิ้งของแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หมั่นตรวจสอบอายุการใช้งานของแบตเตอรี่,ตรวจสอบขั้วต่อ,เติมน้ำกลั่นและไม่ควรเติมให้มากเกินไป
แถม! ข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดความเสียหายกับรถของคุณในฐานะเจ้าของรถยนต์สิ่งที่ต้องการนั้นไม่ต่างกัน คือการที่รถมีสมรรถนะที่ดีอยู่เสมอ
เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล , ระบบไฟฟ้า-สัญญาณชัดเจน อะไหล่ต่างๆมีอายุการใช้งานนานที่สุด และนี่คือ “ข้อห้ามที่ควรหลีกเลี่ยง"
1.เหยียบเบรคค้างเวลาลงเนิน หรือเหยียบกระทันหัน
เมื่อเหยียบเบรคกระทันหันหรือเบรคเวลาลงเนินเขาจะเกิดความร้อนสูงขึ้นทันทีและทำให้เบรคสะสมความร้อนไปตลอดการขับขี่ ควรใช้วิธีที่ดีกว่าคือการสลับระหว่างการเบรคและการปลดเบรค จะช่วยให้ผ้าเบรคทำงานได้ดีและลดการสึกหร่อ ทำให้คุณปลอดภัยและรู้สึกมั่นใจระหว่างเดินทาง
2.ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงกับเครื่องยนต์ของคุณ
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เหมาะสำหรับการทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนถนนคอนกรีตมากกว่า ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้ทำความสะอาดเครื่องยนต์รถของคุณ เพราะเครื่องยนต์เป็นชิ้นส่วนที่ซับซ้อนบางอุปกรณ์จะมีสายเซ็นเซอร์และชิ้นส่วนขนาดเล็กประกอบอยู่ การใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจึงไม่เหมาะกับการทำความสะอาดเครื่องยนต์
3.อย่าลืมที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน
เรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องที่พบมากที่สุด(สำหรับเจ้าของรถ) น้ำมันเก่าไม่ดีต่อรถอย่างยิ่ง การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันควรสังเกตน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์จะมีลักษณะเหมือนกากน้ำตาลสีดำ ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันให้บ่อยเท่าที่คู่มือรถแนะนำ (ความถี่แตกต่างกันไปสำหรับรถแต่ละรุ่น) และอย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันไปพร้อมกันด้วย
4.อย่าละเลยที่จะใช้เบรคมือ
ไม่ว่าคุณจะจอดรถบนเนินสูงชันหรือพื้นราบเรียบก็ตาม ควรใช้เบรคมือให้เป็นนิสัยเสมอ นอกเหนือจากเหตุผลด้านความปลอดภัยแล้วนั้น การใช้เบรคมือขณะจอดรถยังช่วยลดความเครียดของระบบเบรค ช่วยยึดรถของเราไว้อย่างมั่นคง การใช้เบรคมือให้เป็นนิสัยนี้อาจเพิ่มอายุการใช้งานรถยนต์ได้เป็นเวลาอีกหลายปี
5.ไม่ละเลยเสียงแปลกๆ จากรถของคุณ
ถ้ารถของเราพูดได้ คงจะบอกเราได้ว่าชิ้นส่วนไหนชำรุดหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่ก็จะมีสัญญาณบางอย่างมาจากรถของคุณเช่นกัน ถ้าคุณฟังเสียงอย่างถี่ถ้วนคุณจะสามารถรู้ได้ว่าบริเวณใดของตัวรถกำลังมีปัญหาเช่น มีเสียงแปลกๆ ทุกครั้งที่คุณเปิดประตูผู้โดยสาร อาจหมายความว่าคุณจำเป็นต้องใส่น้ำมันหล่อลื่นที่ข้อต่อบานพับประตู , เสียงที่ดังที่ล้อข้างในข้างหนึ่งอาจเป็นเพราะกระบอก โช๊ค รถยนต์ หรือระบบช่วงล่างผิดปกติ , เสียงท่อดังขึ้นอาจหมายถึงท่อไอเสียหลวม , เสียงแหลมสูงที่คุณได้ยินเมื่อคุณเหยียบเบรคอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรงกว่าที่คิด เพราะมันเป็นสัญญาณว่าแผ่นผ้าเบรคของคุณควรจะต้องเปลี่ยน
“ฟังเสียงรถของคุณเสมอ - มักจะให้เบาะแสเมื่อมีสิ่งที่ผิดปกติ"
6.เปลี่ยนเกียร์จากถอยหลัง (R)ไปที่เดินหน้า (D) ทันที! โดยไม่เหยียบเบรค
เป็นอีกหนึ่งการกระทำของเจ้าของรถ ที่ทำให้เกียร์พังได้ภายในไม่กี่วินาท่ี ! โดยการที่รีบเปลี่ยนจากเกียร์ถอยหลัง (R) ไปยัง เกียร์เดินหน้า (D) ในทันที โดยไม่ได้เหยียบเบรคให้รถหยุดก่อน (หรือทำสลับกัน)
>
7.ลดความเครียดของเครื่องยนต์เมื่อสตาร์ทรถ
เมื่อคุณเริ่มต้นสตาร์มรถควรปิดอุปกรณ์เสริมต่างๆในรถ เช่น ใบปันน้ำฝน,แอร์,วิทยุ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานหนักมากเกินไปในช่วงแรก
8.ขับรถต่อเนื่องเมื่อความร้อนสูงเกินไป
หากคุณกำลังขับรถไปตามถนนและสังเกตเห็นเครื่องวัดอุณหภูมิของรถได้เข้าสู่ 'HOT’ แนะนำว่าคุณต้องหยุดรถในทันที หากฝืนขับรถต่อไปมีโอกาสที่ระบบหล่อเย็นจะล้นออกจากถังพัก เครื่องยนต์ร้อนจัดมากจนรถหยุดนิ่งและจะพังในที่สุด ดังนั้นจึงควรหยุดรถและหาบริการรถลากจูงจะดีที่สุด
แนะนำให้คุณใส่ใจกับระบบต่างๆใต้ฝากระโปรงรถยนต์ของคุณเป็นประจำ คุณควรสังเกตและฟังเสียงรบกวนจากรถที่บอกถึงความผิดปกติ และจำไว้ว่าแม้แต่รถที่บำรุงรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ดีทุกประการแล้วก็สามารถเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ ดังนั้นอย่าลืมเรื่องอายุประกันรถยนต์ของคุณด้วยเช่นกัน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่เข้ามาชม Milework.com ทุกท่านครับ
บทความน่าอ่าน